เปิดฉากมายังไม่ทันไรทางฝั่งเจ้าถิ่น ไล่กดดันเพรสซิ่งเร็วใส่นักเตะ ลิเวอร์พูล จนกระทั่ง นาธาเนี่ยล ไคลน์ จ่ายบอลพลาด บอลหลุดไปถึง แซม โว๊คส์ ตะบันเน้นๆ บอลพุ่งแรงผ่านตัว ซิมง มินโญเลต์ เข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยสดงดงาม ผ่าน 20 นาทีแรกของเกม หลังจากที่ “หงส์แดง” ตกเป็นฝ่ายตามหลัง ก็พยายามเอาบอลมาครองพร้อมกับเดินหน้าโจมตีใส่แผงหลัง เบิร์นลีย์ ที่ลงไปตั้งรับกันทั้งทีม แต่ยังหาช่องทางเข้าไปลุ้นจบสกอร์ได้ค่อนข้างลำบาก นาที 29 โอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอของ ลิเวอร์พูล มาจากลูกยิงของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่บรรจงสับด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งแรงหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว
นาที 37 หลังจากที่ ลิเวอร์พูล กำลังบุกอยู่เพลินๆ พนันฟุตบอล แต่โดนสวนกลับ และเป็นทาง อันเดร เกรย์ ที่ลากเลื้อยตัดเข้ากลาง ก่อนจะตะบันด้วยซ้าย บอลไหลเลียดพื้นผ่านมือ ซิมง มินโญเลต์ เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย และนี่เป็นโอกาสพังประตูครั้งที่สองของ เบิร์นลีย์ ในเกมนี้ พร้อมกับใส่สกอร์ให้ตัวเองเป็นฝ่ายออกนำ “หงส์แดง” ใน 45 นาทีแรกที่จำนวนประตู 2-0
เริ่มครึ่งหลัง ยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวของทั้งสองทีม ครบหนึ่งชั่วโมงของเกม ยังคงเป็น ลิเวอร์พูล ที่เอาบอลมาครอง และเดินหน้าบุกใส่ เบิร์นลีย์ ชนิดไม่ให้พักหายใจเหมือนเดิม แต่จังหวะจบสกอร์ส่วนใหญ่มาจากการยิงไกล และเกือบทำได้จาก โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ แต่นอกจากนั้นก็ยังทำอันตรายเกมรับเจ้าถิ่นได้ไม่มากพอ แทงฟุตบอล ช่วงเวลาที่เหลือ “หงส์แดง” ยังคงเป็นฝ่ายเดินหน้าเพื่อเจาะประตูตีไข่แตก แต่ต้องชื่นชมระเบียบวินัยเกมรับของ เบิร์นลีย์ ที่ไม่ปล่อยให้นักเตะ ลิเวอร์พูล มีลุ้นทำประตูง่ายๆเลยแม้แต่จังหวะเดียว ทำให้เวลาเดินทางผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งช่วงท้ายเกม ฟอร์มการเล่นของลูกทีม เจอร์เกน คล็อปป์ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไรได้ดีขึ้น ทำให้สุดท้ายพ่ายไปด้วยสกอร์ 2-0
เจ้าบ้าน จะไม่มี อิมานอค อากีเร่ และ เซร์จิโอ คานาเลส ที่บาดเจ็บรวมไปถึง อิงโก้ มาติเนซ ที่ยังต้องรอเช็กสภาพอาการจนถึงนาทีสุดท้ายว่าจะลงสนามได้หรือไม่ นัดนี้จะนำทัพโดย อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้ ที่จะได้ลงสนามพบกับ เรอัล มาดริดทีมเก่าอีกครั้ง รวมไปถึง มาร์เคล